“2 ล้านผลึกศิลาต่อเม็ด นี่ราคาสหายนะเนี่ย”
เจ้าอ้วนขดปากพลางกล่าว “ราคาสหายยังแพงขนาดนี้..”
“ทั้ง หมดนี่มี 120 เม็ด พวกเจ้าเอาไปแบ่งเท่า ๆกัน ถึงจะต้องผ่อนจ่ายอีก
10 ปีก็ไม่เป็นไร… ยามนีโลกมนุษย์มากมายผสานเข้าด้วยกัน เมื่อยามที่มหา
สงครามอุบัติขึน้ สถานะการณ์คงเลวร้ายอย่างที่สุด พวกเจ้าต้องเร่งเพิ่มพูน
ความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทาได้” เฉินเซี่ยงหยิบกระเป๋าเก็บของ
ออกมาก่อนยื่นส่งให้ชูเหว่ยหลง
ตอนนีเ้หลียนหมิงตงและพี่น้องตระกูลเหลยกาลังบ่มเพาะอยู่ เฉินเซี่ยงรู้ว่าชู
เหว่ยเหลงต้องเก็บเม็ดยาไว้ให้ทัง้ สามคนนัน้ ด้วยแน่
“ก่อนมหาสงครามจะอุบัติขึน้ พวกเราต้องบรรลุขอบเขตขันติขัน้ สูงให้ได้” เฉิน
เซี่ยงกล่าวอย่างจริงจัง
หวินเสี่ยวเตาพยักหน้า การที่พวกตนได้เป็นสหายกับเฉินเซี่ยงนับเป็นโชคลาภ
พวกเขาจะคอยเป็นกาลังและจะไม่ทาให้เฉินเซี่ยงผิดหวัง
“การที่โลกมากมายผสานเข้ากันจนกลายเป็นโลกใบใหม่ย่อมต้องมีชื่อใหม่
เช่นกัน แต่นนั่ ทาให้เกิดข้อพิพาท ไอ้คนพวกนัน้ มันไร้สมอง พวกมันไม่รู้ว่าชื่อ
โลกมนุษย์หน่ะดีที่สุดแล้ว” หวินเสี่ยวเตากล่าวพลางจ้องมองไปยังผู้คนที่อยู่
บนถนน
“ตอนนี้โลกก็มีขนาดใหญ่ขึน้ กว่าเดิมหลายเท่าตัว ถ้าเกิดพวกเราสามารถ
รับมือกับวิกฤตของมหาสงครามสามดินแดนได้ เมื่อนั่นเราย่อมสามารถ
เดินทางไปยังโลกต่างๆ และนั้น ...จะมีประโยชน์กับการบ่มเพาะของเรามาก”
เฉินเซี่ยงทราบว่าโลกในยามนี้ต้องวุ่นวายเป็นอย่างมาก
ในโลกแต่ละใบล้วนมีขุมกาลังมากมาย แต่ละฝ่ายอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ยิ่ง
ยามนีโลกผสานเป็นหนึ่ง สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย หากขุมกาลังทัง้ หมดไม่รวม
เป็นปึกแผ่น ยามที่โลกปีศาจและโลกอสูรรุกราน เมื่อนั่นคงเป็นปัญหา
โลกปีศาจและโลกอสูรนัน้ มีนักสู้จานวนมาก แม้พวกมันจะไร้สมอง แต่เมื่อ
ยามต่อสู้ พวกมันจะใช้พลังทัง้ หมดเข้าจู่โจม หากมนุษย์อ่อนแอย่อมยากที่จะ
รับมือกับพวกมัน
“เฉินเซี่ยง เจ้าจาตงฟางเย่าได้หรือเปล่า? สานักสังหารปีศาจรู้ว่าเจ้าเป็นผู้
สังหาร พวกมันเลยตัังตารอ หัวให้เจ้า” จู่ๆชูเหว่ยหลงก็กล่าวขึน้
เฉินเซี่ยงพยักหน้า “โลกดัง้ เดิมของมันคือโลกที่น่าเกรงขาม ตระกูลของมันก็
น่าเกรงขามทัง้ ยังปกครองโลกใบนัน้ ”
“ตระกูลตงฟางแข็งแกร่งมาก ด้วยเวลาเพียง 1 ปี พวกมันสามารถผนึกขุม
กาลังของโลกใบอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆกระทงั่ ขุมกาลังของมันขยายขึน้ กว่า 10 เท่า”
คากล่าวของชูเหว่ยหลงทาให้เฉินเซี่ยงตกใจ
เมื่อโลกผสานกัน ทัง้ ผืนดินและผืนป่า เชื่อมประสาน ผืนสมุทรที่ดูราวกับไร้ที่
สิ้นสุดเชื่อมประสานแผ่นดินใหญ่จนทาให้โลกมนุษย์กลายเป็นโลกขนาดยักษ์
สีหน้าของเฉินเซี่ยงแปรเปลี่ยน “แบบนัน้ ไม่ใช้เรื่องดี หรือตระกูลตงฟางตัง้ ใจ
จะยึดครองโลก?”
“ถ้าดูจากสิ่งที่พวกมันทาก็อาจจะใช่ อีกอย่างพวกมันก็มีความสามารถพอ
ด้วย ยิ่งขุมกาลังของมันขยายก็ยิ่งครอบครองความแข็งแกร่ง ถึงตอนนีจ้ ะ
กล่าวว่าพวกมันคือขุมกาลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกก็ไม่ผิด” ชูเหว่ยหลงกล่าว
เฉินเซี่ยงส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “เรื่องนีพ้ วกเราทาอะไรไม่ได้หรอก ตอนนี้
ตัง้ ใจเพิ่มพูนความแข็งแกร่งเถอะ”
ถึงจะกล่าวไปแบบนัน้ พวกเขายังกังวล นนั่ เพราะตระกูลตงฟางรวบรวมขุม
กาลังได้อย่างรวดเร็ว หากพวกมันผนึกรวมขุมกาลังทัง้ โลกได้ เมื่อนัน้ ย่อมไร้ผู้
ต้าน!
กู่ตงเฉินเองก็กังวลเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ขุมกาลังขนาดใหญ่ของโลกมนุษย์ยังรวมตัวกันอยู่ที่แผ่นดินราชา
...
“ข่ายพลังจัดตัง้ ขึน้ เพียงนิกายหลัก แต่ยามนีทั้ง้ นิกายด้านเม็ดยา นิกายด้าน
ข่ายพลัง และนิกายด้านการสร้างอุปกรณ์ล้วนอยู่ในการปกครองของ ‘ตระกูล
ตงฟาง’” ชายชราคนหนึ่งกล่าว
“แล้วตอนนีมี้ขุมกาลังไหนที่สามารถต่อต้านตระกูลตงฟางได้บ้าง?”
ที่กู่ตงเฉินกล่าวถามเพราะกลัวว่าจะยังมีขุมกาลังอื่นที่ต่อต้านตระกูลตงฟาง
อยู่ หากตระกูลตงฟางยังคงทาสงครามขยายขุมกาลังต่อไปเช่นนี ้ขุมตอ่ ต้าน
อื่นๆย่อมถูกทาลาย เรื่องเช่นนีไ้ ม่อาจปล่อยให้เกิดขึน้ ได้
“ก่อนหน้านีพ้ วกเราพอจะรู้สถานะการณ์ของสานักสยบปีศาจและวิหารเพลิง
พระเจ้า แต่หลังจากโลกผสานกัน ไม่รู้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่มาก
ขนาดไหน”
ยามนีผู้ที่ตระกูลตงฟางเป็นกังวลที่สุดคือเฉินเซี่ยง เฉินเซี่ยงคือผู้สังหารตงฟาง
เย่า เรื่องนีพ้ วกมันรู้ดี ดังนัน้ พวกมันจึงตัง้ ค่าหัวเฉินเซี่ยง แม้เฉินเซี่ยงจะหาย
ตัวไปถึงสองปี แต่ชื่อเสียงของเขายังคงโด่งดัง
เมื่อเฉินเซี่ยงทราบเรื่อง เขาก็ทาได้เพียงยิม้ รับ เขาไม่ได้กังวลเรื่องค่าหัวมาก
นัก หากเขาคิดจะซ่อนตัวจริงๆ ไม่ว่าผู้ใดก็หาเขาได้ยาก โดยเฉพาะยิ่งตอนนี้
เฉินเซี่ยงสามารถแปลงโฉมและกลิ่นอายของตนได้ เขาจึงรู้สึกวางใจ แต่หาก
ตระกูลตงฟางจะตามหาตัวเขา พวกมันมีเพียงแต่ต้องจู่โจมนิกายยอดนักสู้
ไม่ว่าด้วยโลกมนุษย์ทัง้ หมดเพิ่งจะผสานควบรวมกันกลายเป็นโลกใบใหม่
หรือมหาสงครามจะใกล้เข้ามา แต่เหล่าขุมกาลังที่ทะเยอทะยานยังคงมุ่ง
ขยายขุมกาลังเพื่อแสดงความน่าเกรงขามของตน หากไม่ทาเช่นนัน้ สักวัน
หนึ่งพวกมันก็ต้องผนวกจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกับกองกาลังที่แข็งแกร่งกว่า
อยู่ดี
เฉินเซี่ยงเองก็ทราบว่าการที่โลกมนุษย์มากมายผสานเข้าด้วยกันจะทาให้เกิด
เหตุการณ์เช่นนี้
วิหารเพลิงพระเจ้าและสานักสังหารปีศาจ สองขุมกาลังในแผ่นดินราชานี้ล้วน
น่าเกรงขาม กระทงั่ ขุมกาลังมากมายยังต้องยาเกรง
10 วันผ่านไป… เฉินเซี่ยงออกสอบถามข่าวสารต่างๆไปทวั่ และข่าวพวกนัน้
ก็ทาให้เขาตื่นเต้นมาก สถานที่ต่างๆของโลกใหม่ที่รอคอยการสารวจนัน้ มี
จานวนมาก ทัง้ ยังไม่ทราบว่าสถานที่เหล่านัน้ จะรับมือกับมหาสงครามได้
หรือไม่
“ถ้าเกิดโลกอสูรและปีศาจผสานเข้าด้วยกัน สถานะการณ์ต้องเลวร้ายมาก
แน่ เป่ยยู่ยู่กล่าว
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ตอนนีข้าจะไปดูตระกูลตงฟางที่เป็นขุมกาลังที่
แข็งแกร่งที่สุดในโลกเสียหน่อย” ยามนี้เฉินเซี่ยงอยู่ที่แผ่นดินราชา เขาเดินเข้า
สู่ข่ายพลังเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่เพื่อเดินทางไปยัง ‘แผ่นดินจักรพรรดิฟ้า’
พร้อมกับคนกลุ่มหนึ่ง ซงึ่ เป็นคนของตระกูลตงฟาง
‘เมืองจักรพรรดิฟ้า’ คือเมืองหลวงของแผ่นดินจักรพรรดิฟ้า ตระกูลตงฟาง
สร้างพระราชวังจักรพรรดิไว้ที่เมืองแห่งนี้ผู้นาตระกูลตงฟางเรียกขานตนเอง
เป็นจักรพรรดิ เมื่อเฉินเซี่ยงมาถึงเมืองจักรพรรดิฟ้า เขากลับพบเห็นใบ
ประกาศค่าหัวของเขาติดไว้มากมาย
แต่ยามนี้เฉินเซี่ยงแปลงโฉมเป็นเพียงคนธรรมดา แม้จะเดินทางมาต่าง
แผ่นดินย่อมไม่มีผู้ใดจดจาได้ว่าชายธรรมดาๆผู้นี้คือผู้ที่มีค่าหัวถงึ 1 พันล้าน
“เป็นถงึ ขุมกาลังที่ทรงอิทธิพลอันดับ 1 ขอโลกแต่กลับตัง้ ค่าหัวของข้าแค่ 1
พันล้านเนี่ยนะ? ออกจะยากจนเกินไปแล้ว!” เฉินเซี่ยงหัวเราะในใจ
เมื่อโลกใหม่ถือกาเนิด จานวนผู้เชี่ยวชาญก็เพิ่มมากขึน้ หากไม่ใช่เพราะเฉิน
เซี่ยงมีค่าหัว ชื่อเสียงของเขาคงไม่โด่งดัง นนั่ เพราะไม่มีผู้ใดจากโลกใบใหม่ที่
รู้จักเฉินเซี่ยง คนเหล่านัน้ ย่อมไม่สนใจ แต่หากเฉินเซี่ยงอยากมีชื่อเสียงโด่งดัง
คงต้องก้าวขึน้ เวทีประลองเท่านัน้ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น