เช่ายี๋เฉวียนและฟงสื่อเชวียนจ้องมองการปรุงยาของเฉินเซี่ยง ก่อนหน้าที่จะมาไล่
ล่าเฉินเซี่ยง ทั้งสองทราบเรื่องราวของเฉินเซี่ยงมากมาย ทั้งยังรู้ว่าเฉินเซี่ยงสกัด
กลั่นเม็ดยาระดับพิภพขั้นกลางได้ นับว่าเฉินเซี่ยงคือนักปรุงยาที่เก่งกาจ
หากคนอย่างเฉินเซี่ยงได้เติบโต บางทีเขาอาจเป็ นจ้าวแห่งจักรพรรดิคนต่อไป ยิ่ง
เห็นสมุนไพรระดับสูงของเฉินเซี่ยง เช่ายี๋เฉวียนและฟงสื่อเชวียนยิ่งอยากช่วงชิง
“เป็ นเตาปรุงยาที่ไม่ธรรมดา!” เช่ายี๋เชวียนอยู่ในแดนสวรรค์มาหลายปี นางจึงรู้ว่า
เตาปรุงยาของเฉินเซี่ยงไม่ธรรมดา
“อืม... นี่เตาปรุงยามังกรเพลิง! ว่าไง! อยากขโมยด้วยหรือเปล่า?” เฉินเซี่ยงยิ้ม
พลางกล่าวอย่างมีความสุข การปรุงยาของเฉินเซี่ยงยังคงล้มเหลวอย่างต่อเนื่องซึ่ง
เริ่มทาให้เช่ายี๋เฉวียนสงสัยในระดับการปรุงยาของเฉินเซี่ยง แต่จือเหม่ยเซี่ยนรู้
เพราะก่อนหน้านี้นางเคยเห็นการปรุงยาของเฉินเซี่ยง ระดับความสาเร็จของเฉิน
เซี่ยงนั้นสูงมาก
เตาปรุงยามังกรเพลิงนั้นมีชื่อเสียงในแดนสวรรค์มาก เมื่อเช่ายี๋เฉวียนและฟงสื่อเช
วียนได้ทราบว่ามันอยู่ในครอบครองของเฉินเซี่ยง ทั้งสองจึงตกใจ
“เจ้าไปเอามันมาจากไหน?” เช่ายี๋เฉวียนสูดหายใจลึก “เตาปรุงยาของเจ้าสร้าง
ขึ้นด้วยปรมาจารย์ผู้สร้างในแดนสวรรค์ ปรมาจารย์ที่ว่าคือมังกรเพลิง เขาใช้หยก
โลหิตมังกรเพลิงเป็ นวัตถุดิบและมันสร้างถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1000 ปี ที่แล้วเพื่อ
มอบให้กับราชาเม็ดยาสวรรค์ผู้หนึ่ง แต่จู่ๆราชาเม็ดยาสวรรค์ผู้นั้นก็หายตัวไป เตา
ปรุงยามังกรเพลิงเองก็หายสาปสูญ”
เฉินเซี่ยงได้ครอบครองเตาปรุงยามังกรเพลิงมาจากฟากฝั่งโลกธรรมดาสามัญอัน
ลึกลับ เมื่อก่อนจะเกิดมหาสงครามสามดินแดน จู่ๆโลกธรรมดาสามัญก็หายไป แต่
ผู้คนมากมายก็กล่าวต่อๆกันว่ามันจะกลับมาเอง
“ข้าได้มาจากบ้านเกิดของข้า” เฉินเซี่ยงยิ้มพลางกล่าว “จากนี้ข้าอาจกลายเป็ น
ราชาเม็ดยาสวรรค์ที่ทรงพลังที่สุด พวกเจ้าไม่อยากติดตามข้าบ้างหรอ? แม้สตรี
เช่นเจ้าจะมีชื่อเสียงไปทั่วทุกหนแห่ง แต่นั่นก็แค่ชื่อเสียง การจะได้ครอบครองเม็ด
ยาระดับสูงยังนับว่ายากอยู่”
“เจ้าคนหลงตัวเอง ตระกูลฟงของข้าก็มีราชาเม็ดยาสวรรค์ แล้วข้าจะไปสนใจ
ติดตามเจ้าทาไม?” ฟงสื่อเชวียนเย้ยหยัน
“ฮ่าฮ่า มีราชาเม็ดยาสวรรค์แล้วยังไง? ตระกูลฟงของเจ้าออกจะใหญ่โต ราชาเม็ด
ยาสวรรค์ผู้นั้นจะสนใจเจ้าคนเดียวงั้นหรอ? ต้องบอกว่าเป็ นไปไม่ได้.. เม็ดยาที่เจ้า
ได้มาล้วนเป็ นขยะในสายตาของคนพวกนั้น แต่หากเจ้ายอมติดตามข้านับตั้งแต่
บัดนี้ไป เจ้าจะได้เป็ นบ่าวกลุ่มแรกของข้า และนั่นหมายถึงผลประโยชน์มากมายที่
เจ้าจะได้รับ”
แต่จู่ๆเฉินเซี่ยงก็ส่ายหน้า “ข้าไม่รับเจ้าเป็ นบ่าว ตัวเจ้าเป็ นได้แค่ขี้ข้ารับใช้เท่านั้น
บรรพบุรุษของพวกเจ้าทรยศหักหลังจ้าวแห่งจักรพรรดิ เพราะฉะนั้นข้าถึงไม่เชื่อ
ใจเจ้า! แต่นาง...พอจะเป็ นบ่าวของข้าได้”
แล้วกระบี่ของพวกมันทั้งสองก็ชี้จ่อมาที่คอของเฉินเซี่ยง
แต่จือเหม่ยเซี่ยนเองกลับรู้สึกไม่พอใจ ก่อนหน้านี้เฉินเซี่ยงก็เคยกล่าวทานองนี้กับ
นาง และสุดท้าย นางก็กลายเป็ นบ่าวของเฉินเซี่ยงจริงๆ
“ข้าแค่ล้อเล่น อย่าได้จริงจังไป!”
เฉินเซี่ยงยิ้ม หากได้พวกมันเป็ นบ่าวจริงๆคงน่าดูชม เพราะพวกมันล้วนมี
ความสามารถไม่แพ้กัน แต่นั่นต่างกับจือเหม่ยเซี่ยน ครั้งหนึ่งนางเคยเป็ นธิดาหยก
สวรรค์ เป็ นผู้ครอบครองโลหิตของวิหคที่ทรงพลังถึงสองสาย ทั้งยังมีชุดคลุม
สวรรค์ในครอบครอง
“นอกจากการปรุงยา ถ้าเจ้ายังกล้าพูดจาไร้สาระกับข้าอีก ข้าจะตัดลิ้นของเจ้า”
เช่ายี๋เฉวียนกล่าวด้วยน้าเสียงเย็นชา นางโกรธเคืองเป็ นอย่างมาก เด็กหนุ่มผู้อยู่
เบื้องหน้านางกลับต้องการรับนางเป็ นบ่าว
แม้เป็ นแดนสวรรค์ นักปรุงยายังนับว่าขาดแคลน หากเฉินเซี่ยงสามารถสกัดกลั่น
เม็ดยาระดับสูงได้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญในแดนสวรรค์ย่อมต้องยอมคุกเข่าให้
เมื่อเวลาผ่านไป จู่ๆเขาสิงโตก็เริ่มสั่นสะเทือนซึ่งหมายถึงการเคลื่อนที่ครั้งที่ 10
เฉินเซี่ยงเร่งเก็บเตาปรุงยาก่อนจะแสดงสีหน้าจริงจัง เพราะเขาต้องออกจากเขาลูก
นี้อย่างรวดเร็ว
“พอเขาสั่นสะเทือนครบ 10 ครั้ง มันจะมีครั้งที่ 11 หรือเปล่า? อย่างเช่นภูเขา
จะเคลื่อนกลับไปยังตาแหน่งเดิม?” เช่ายี๋เฉวียนจ่อชี้กระบี่ไปที่เฉินเซี่ยงพลาง
กล่าวถาม
เฉินเซี่ยงจ้องมองนางอย่างเย็นชา “งั้นก็ลองอยู่ที่นี่ต่อสิ! และถ้าหากเจ้ายังกล้าชี้
กระบี่มาที่ข้าอีกครั้ง ข้าจะทาให้เจ้าติดอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!”
แล้วเฉินเซี่ยงก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเหมือนคราวที่หลบหนี จือเหม่ยเซี่ยน
และคนอื่นก็ทาได้เพียงวิ่งตาม
เมื่อทั้งหมดลงจากภูเขาสิงโต เฉินเซี่ยงก็กล่าวขึ้นอย่างจริงจัง “วิ่งเป็ นเส้นตรงไป
ยังภูเขาลูกนั้น” เฉินเซี่ยงชี้ไปยังภูเขาสิงโตลูกหนึ่งก่อนจะเริ่มออกวิ่ง
ที่พื้นรอยต่อระหว่างภูเขาปกคลุมด้วยก้อนอิฐสีฟ้ าขนาดใหญ่ หากมองดีๆ บนนั้น
จะสลักด้วยรูปแบบวิญญาณขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากมาย ดังนั้น จือเหม่ยเซี่ยน
บุตรแห่งฟ้ า และธิดาแห่งสวรรค์จึงไม่กล้าประมาท ทั้งสามเร่งตามติดเฉินเซี่ยงอ
ย่างใกล้ชิด
แม้ระหว่างทางยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่นั่นกลับน่าสะพรึงกลัว เพราะระหว่างทางมี
สายลมอันเฉียบให้ความรู้สึกราวกับเป็ นสายลมจากขุมนรก และด้วยความเย็นที่
เสียดกระดูกทาให้เช่ายี๋เฉวียนรู้สึกอึดอัดเป็ นอย่างมาก
ภูเขาสิงโตแต่ละลูกห่างกันกว่าพันจ้าง แต่ความรู้สึกที่เฉินเซี่ยงได้คือห่างถึงหมื่น
จ้าง แม้เฉินเซี่ยงจะวิ่งอย่างรวดเร็ว แต่ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้วยังไม่ถึงภูเขาที่เป็ น
เป้ าหมาย
“ไม่ต้องกังวล ตอนนี้เราปลอดภัย ถ้าเส้นทางนี้มีอันตรายจริง ป่ านนี้เราตายไป
นานแล้ว” เฉินเซี่ยงกล่าว เขาหลับตาแล้วเห็นเส้นทางที่เป็ นสีทองนาไปยังภูเขาฝั่ง
ตรงข้าม นั่นหมายถึงเส้นทางนี้ปลอดภัย แต่หากก้าวออกนอกแสงสีทองไป จะตก
ลงสู่มิติอันไพศาล
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดคนทั้งหมดก็ไปถึงภูเขาสิงโตอีกลูกอย่างปลอดภัย เมื่อ
ทั้งหมดหันมองหนทางที่ผ่านมา ระยะห่างระหว่างภูเขากลับดูเหมือนมีเพียงพัน
จ้าง แต่ทั้งหมดต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วยามในการข้ามมา
แต่สิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดกลับกลายเป็ นว่า ภูเขาที่ทั้งหมดอยู่ก่อนหน้านี้กาลังลุก
โหมด้วยเพลิงสีฟ้ าที่มีทั้งความร้อนและความเย็น ฉากที่เกิดขึ้นน่าสะพรึงกลัวเป็ น
อย่างมาก
เช่ายี๋เฉวียนเสียวสันหลังวาบ ก่อนหน้านี้นางตั้งใจจะอยู่ที่ภูเขาลูกนั้นต่อเพื่อรอการ
สั่นสะเทือนครั้งที่ 11 ซึ่งอาจจะนาไปสู่สถานที่แห่งเดิม แต่ยามนี้ นางเข้าใจแล้ว
ว่าภูเขาสิงโตเหล่านี้ไม่ธรรมดา
“เอายังไงต่อ?” ยามนี้นางเชื่อเฉินเซี่ยงแล้ว นางไม่กล้าสงสัยเฉินเซี่ยงอีก อีก
อย่าง นางเริ่มตระหนักแล้วว่าภูเขาสิงโตไม่ปลอดภัย
“อย่างแรก ตามหาอนุสรณ์ของเขาลูกนี้ มันจะนาเราไปยังภูเขาที่ปลอดภัยลูก
ต่อไป” เฉินเซี่ยงกล่าว หากทั้งหมดไม่ออกมาจากภูเขาสิงโตลูกเมื่อครู่ ทั้งหมดคง
ได้สิ้นชีพ และหากเคลื่อนไปยังภูเขาลูกต่อไปได้ ทั้งหมดก็จะปลอดภัย
เขาสิงโตลูกที่เฉินเซี่ยงอยู่ปัจจุบันไม่ต่างจากก่อนหน้า มันเต็มไปด้วยป่ าเขียวขจี
และปราณวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ตามเส้นทางบนภูเขายังมีดอกไม้ที่
งดงามมากมาย พวกมันส่งกลิ่นหอมช่วยบรรเทาความโกรธแค้นภายในใจ
ในที่สุดก็พบอนุสรณ์ของเขาลูกนี้ เฉินเซี่ยงยังใช้วิธีเดิมคือทาลายมันก่อจะได้รับ
ข้อมูลใหม่มา
“อีก 1 เดือนให้หลัง อนุสรณ์อันนี้จะถือกาเนิดขึ้นมาใหม่ แต่ตอนนี้ ข้าต้องใช้
เวลาในการทาความเข้าใจกับข้อมูลที่ได้มา” เฉินเซี่ยงหลับตาพลางวิเคราะห์
ตัวอักษรที่ได้มาจากอนุสรณ์ที่ทาลายไปเมื่อครู่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น